KPNREIT พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน อีกทางเลือกหนึ่งของการลงทุน
ในภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ Real Estate Investment Trust (REIT) ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเนื่องจากความเสี่ยงที่ต่ำกว่าหุ้น แต่ยังคงมีโอกาสในการเติบโตและให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากและพันธบัตรรัฐบาล ด้วยเหตุนี้ REIT จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนแบบสม่ำเสมอ ทั้งในรูปแบบของการจ่ายประโยชน์ตอบแทน (หรือ เงินปันผล) และกำไรจากส่วนต่างของราคา (capital gain)
ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น หรือ KPNREIT เป็นกองทรัสต์อิสระที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปลายปี 2567 จากการแปลงสภาพของกองทุนรวมvสังหาริมทรัพย์เคพีเอ็น ปัจจุบันมีทรัพย์สินหลักคือ โครงการอาคารสำนักงาน เคพีเอ็นทาวเวอร์ (KPN Tower) โดยมีบริษัท บลูเวล แอสเซท จำกัด เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ และอยู่ภายใต้การกำกับของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด ในฐานะทรัสตี

การแปลงสภาพจากกองทุนรวมเป็นกองทรัสต์ในครั้งนี้ถือเป็นการปลดล็อกข้อจำกัดในการขยายการลงทุน อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ KPNREIT ซึ่งเป็นกองทรัสต์อิสระสามารถขยายการลงทุนไปในสินทรัพย์ที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนสามารถระดมทุนผ่านการกู้ยืมเงินได้ในสัดส่วนที่สูงขึ้นด้วย ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสการเติบโตอย่างมหาศาลให้แก่ KPNREIT อีกทั้งโครงสร้างของกองทรัสต์มีความเป็นสากลยังช่วยดึงดูดผู้ลงทุนทั้งในและนอกประเทศให้เข้ามาลงทุนในกองทรัสต์มากขึ้น
ตอกย้ำจุดเด่นควบคู่ไปกับการขยายฐานการลงทุนเพื่อการเติบโต
นายรุ่งยศ จันทภาษา กรรมการผู้จัดการบริษัท บลูเวล แอสเซท จำกัด เผยว่า “ในปี 2568 นี้ KPNREIT จะมุ่งเน้นการเสริมศักยภาพการแข่งขันของอาคารสำนักงานเคพีเอ็นทาวเวอร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับโฉมครั้งใหญ่เพื่อเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ ปรับปรุงภาพลักษณ์ของโครงการให้สอดรับกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปของผู้ใช้อาคารสำนักงาน ขยายกลุ่มผู้เช่าให้หลากหลายมากขึ้น และเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดดำเนินการรถไฟฟ้าสายสีส้มในปี 2569 ที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดว่าจะส่งเสริมปริมาณผู้มาใช้อาคารให้เพิ่มขึ้น ส่งเสริมอาคารเคพีเอ็นซึ่งมีความโดนเด่นอยู่แล้ว ในด้านทำเลที่ตั้งในย่านพระราม 9 ที่เชื่อมต่อสู่ถนนหลักหลายสาย และมีกลุ่มธุรกิจระดับเล็กถึงกลาง (SMEs) ที่ขยายตัวอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้ความต้องการในการใช้พื้นที่ของกลุ่มธุรกิจนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างมากในย่านนี้"


“นอกจากการเสริมศักยภาพให้แก่ทรัพย์สินหลักแล้ว KPNREIT ยังมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมในอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภท เพื่อขยายฐานรายได้ และลดการพึ่งพารายได้จากธุรกิจประเภทใดประเภทหนึ่ง โดยทรัพย์สินที่กองทรัสต์ให้ความสำคัญในการเข้าลงทุน ได้แก่ อาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงาน ศูนย์กระจายสินค้า และพื้นที่เก็บของให้เช่า (Self-Storage) โดยมุ่งเน้นทรัพย์สินที่อยู่ในทำเลที่ตั้งซึ่งเป็นแนวระเบียงเศรษฐกิจและศูนย์การการกระจายสินค้าและคมนาคมของประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ลงทุนและมีการเติบโตที่ต่อเนื่องและยั่งยืน”